วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลกระทบปัญหาลิเบียต่อไทย และโลก

ปัญหาการประท้วงในลิเบียซึ่งนานาชาติให้ความสนใจและอยากให้ปัญหาคลี่คลายลงโดยเร็ว เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประท้วงในลิเบียนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและประชาชนของประเทศต่างๆ ในโลกอย่างรวดเร็วและมากมาย
สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในลิเบียดังกล่าว ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทะยานขึ้นแตะบาร์เรลละ 120 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์การชุมนุมประท้วงแบบเดียวกับลิเบีย อาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ตามทฤษฎีโดมิโนที่คาดว่าสถานการณ์ประท้วงในตูนิเซียและอียิปต์อาจเป็นต้นแบบของการประท้วงเพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในหลายประเทศ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางและแอฟริกา
นอกจากนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประท้วงในลิเบียในครั้งนี้ ดูจะรุนแรงกว่าการประท้วงในอียิปต์ในสายตาชาวโลก เพราะลิเบียเป็นประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกที่ผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลกประมาณวันละ 1.6 ล้านบาร์เรล
ดังนั้น การประท้วงในลิเบียที่ส่งสัญญาณรุนแรงขึ้นทำให้นานาชาติยิ่งมีความกังวลมาก เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและแรงงานของประเทศต่างๆ ที่ทำธุรกิจหรือทำงานอยู่ในลิเบียเท่านั้น แต่ถ้าการประท้วงเกิดขึ้นยาวนานอาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นถึง 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรืออาจปรับสูงขึ้นมากกว่านั้นได้ถ้าสถานการณ์รุนแรงและเกิดขึ้นอีกในประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็ว หรือมีความผันผวนสูงจึงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ยังฟื้นตัวอย่างเปราะบางในปัจจุบัน และอาจทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้อีกครั้ง หากเศรษฐกิจโลกกลับมาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้อีกครั้ง หากราคาน้ำมันยืนตัวอยู่ในระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนานเกิน 3 เดือน เพราะประชาชนในประเทศต่างๆ จะกังวลต่อค่าครองชีพที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วโลกชะลอการจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว ในที่สุดจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ชะลอตัวลง และจะทำให้ปัญหาการว่างงานในสหรัฐหรือปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปกลับมาหลอกหลอนเศรษฐกิจโลกได้อีกครั้ง จึงไม่น่าจะแปลกใจที่บรรดาผู้นำของประเทศต่างๆ เรียกร้องให้สหประชาชาติรีบเข้ามามีบทบาทในการคลี่คลายสถานการณ์ในลิเบีย และประเทศมหาอำนาจของโลกคือสหรัฐ ได้พยายามขอให้นานาชาติให้การสนับสนุนเพื่อระงับเหตุนองเลือดในลิเบีย โดยใช้มาตรการคว่ำบาตรลิเบีย ซึ่งประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำของสหรัฐ ได้โทรศัพท์หารือเรื่องดังกล่าวกับผู้นำของประเทศในสหภาพยุโรป พร้อมทั้งออกคำสั่งยึดทรัพย์สิน และขัดขวางการโอนย้ายสิทธิครอบครองใดๆ ในสหรัฐ ซึ่งเป็นของผู้นำลิเบีย และลูกชาย 4 คน เนื่องจากรัฐบาลลิเบียละเมิดบรรทัดฐานสากลและคุณธรรมทั่วไป จึงต้องแสดงความรับผิดชอบ ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบียก็รีบออกมากล่าวยืนยันว่า โอเปกพร้อมรับมือปริมาณน้ำมันที่อาจขาดไปผลจากความวุ่นวายในตะวันออกกลาง เพราะชาติสมาชิกมีศักยภาพเหลือเฟือในการผลิตน้ำมัน นอกจากนั้น ซาอุดีอาระเบียยังรับรองว่าจะเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตจากลิเบียที่อาจขาดหายไป เพื่อระงับผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบของแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น